Search for:
  • Home/
  • Sports News/
  • 1 มิ.ย. จองทะเบียนรถยนต์ผ่านเน็ตต้องยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaID ก่อน

1 มิ.ย. จองทะเบียนรถยนต์ผ่านเน็ตต้องยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaID ก่อน

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมจากประชาชนเพราะสะดวก รวดเร็ว จึงได้ยกระดับระบบการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้มีความปลอดภัยทางด้านข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น

โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 66 เป็นต้นไป ได้เพิ่มขั้นตอนการยืนยันตัวตนก่อนการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันตัวบุคคลตามมาตรฐานของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) และป้องกันการแอบอ้างเอาชื่อบุคคลอื่นมาดำเนินการจองทะเบียนรถยนต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือสูญเสียทรัพย์ได้

นายเสกสม กล่าวต่อว่า ขั้นตอนการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ ได้แก่ 1.เข้าเว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/ เลือกเมนู “จองหมายเลขทะเบียน” 2.ระบบจะเข้าสู่หน้ายืนยันตัวตน ให้ทำการยืนยันตัวตนโดยสแกน QR code ผ่านแอปพลิเคชัน ThaID 3.เมื่อยืนยันตัวตนแล้ว ระบบจะกลับมาที่หน้าหลัก กด “ยอมรับหลักเกณฑ์” เพื่อเข้าสู่หน้าจอถัดไป 4.ทำการเลือกประเภทรถที่ต้องการจองหมายเลขทะเบียน 5.เลือกประเภทการจอง และ 6.ระบุข้อมูลรายละเอียดของผู้จอง หมายเลขตัวถังรถ/หมายเลขทะเบียนที่ต้องการจอง (กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ระบบจะใส่ชื่อ-นามสกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้โดยอัตโนมัติ)

สำหรับการยืนยันตัวตน เจ้าของรถจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaID ผ่านระบบไอโอเอส (IOS) หรือแอนดรอยด์ (Android) เพื่อลงทะเบียนระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางระบบดิจิทัล DOPA-Digital ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สามารถดำเนินการลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนและภาพใบหน้า ผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง (ดูขั้นตอนการลงทะเบียนยืนยันตัวตนอย่างละเอียดได้ที่ https://www.bora.dopa.go.th/app-thaid/)

นายเสกสม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ขบคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เตือนระวังสูญเสียเงิน สูญเสียเอกสารสำคัญ มิจฉาชีพหลอกขโมยข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้อื่นไปใช้ในทางมิชอบ หรือใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมในลักษณะหลอกลวง เพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล (Identity Theft) ไปใช้หาประโยชน์ในทางมิชอบ